อากาศบ้านเราตอนนี้ ไม่ต้องรอให้ถึงเดือนเมษาเพื่อเผชิญกับหน้าร้อนอีกต่อไป และผลกระทบที่ตามมาก็คือ “อาการฮีทสโตรก” หลายคนอาจจะคุ้นเคยเพราะข่าวเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นในผู้คนช่วงหน้าร้อนจนต้องออกมาประกาศวิธีรับมือกันไป แต่ฮีทสโตรกไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคนเท่านั้น แต่เกิดกับสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน บทความนี้จะพาไปดูวิธีรับมืออาการ”ฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยง” ภัยหน้าร้อนที่ทาสแมว/ทาสหมาควรรู้ 5 วิธีดูแลสัตว์เลี้ยงที่คุณรักให้ปลอดภัย
อาการของโรคลมแดด (Heat Stroke) ในสัตว์เลี้ยง
“ฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยง”สัตว์เลี้ยงของเรา ไม่ว่าจะเป็น สุนัขหรือแมว พวกเขาจะมีต่อมเหงื่อบริเวณฝ่าเท้าและจมูกเพื่อช่วยระบายความร้อน สังเกตได้ง่ายๆ หากพวกเขาอยู่ในสภาวะระบายความร้อนไม่ทันก็จะหายใจหอบ เพราะตามร่างกายของสุนัขและแมว ไม่มีเหงื่อออกเหมือนกับคน เวลาที่ร่างกายของพวกเขาไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน ก็จะเกิดเป็นภาวะ”ฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยง” ขึ้นได้
อาการโรคลมแดด หรือ โรคฮีทสโตรกใน สุนัข
- อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 41 องศาเซลเซียส
- น้ำลายไหล จมูกและปากเปียก
- เหงือกสีแดงเข้ม
- หายใจเร็ว หายใจรุนแรงกว่าปกติ มีอาการหอบ
- ล้ามเนื้อสั่นเกร็ง หมดสติ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
อาการโรคลมแดด หรือ โรคฮีทสโตรกใน แมว
- อุณหภูมิในร่างกายสูงเกิน 40°C
- มีท่าทีกระวนกระวาย
- เลียขนบ่อยเพื่อระบายความร้อน
- หายใจหอบ แลบลิ้น หรือหายใจเร็ว
- เดินโซเซ อ่อนเพลีย
- มีเหงื่อออกที่อุ้งเท้า
- อาเจียน
วิธีดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าร้อน ป้องกันโรคฮีทสโตรก
1.ตรวจเช็คและดูแลพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงอยู่ ไม่ให้ร้อนจนเกินไป
ไม่ว่าคุณจะเลี้ยงสุนัขหรือแมวไว้ในบ้านหรือนอกบ้าน ถ้าพื้นที่ที่พวกเขาอยู่เป็นส่วนที่อากาศร้อน ควรย้ายสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในพื้นที่ที่อากาศเย็น ในพื้นที่ร่ม ไม่โดนแดดส่อง และอากาศถ่ายเทสะดวก หรือเปิดพัดลมให้สัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยระบายความร้อน
2. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
การทำกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคฮีทสโตรกมากยิ่งขึ้น เพราะกิจกรรมกลางแจ้งส่วนใหญ่ต้องเจอกับอากาศหรือแสงแดดโดยตรง อีกทั้งการออกแรงมากๆ ก็ยิ่งทำให้สัตว์เลี้ยงเหนื่อยหอบและต้องเพิ่มความเสี่ยงที่จะระบายความร้อนออกจากร่างกายไม่ทันอีกด้วย
3. ตัดแต่งขนสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีขนเยอะๆ
สัตว์เลี้ยงบางสายพันธุ์โดยเฉพาะสุนัขขนยาว จะค่อนข้างระบายความร้อนออกจากตัวได้ยาก การตัดแต่งขนให้สั้นขึ้นก็จะช่วยลดการบดบังของเสีนขนที่จะทำให้เกิดความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
4. หมั่นคอยดูแลเรื่องน้ำดื่ม
สิ่งเล็กๆ ที่จะช่วยป้องกันโรคฮีทสโตรกได้ดี ก็คือการดื่มน้ำให้เพียงพอ เป็นวิธีที่ช่วยได้ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง หมั่นคอยดูแลน้ำดื่มให้สะอาดอยู่เสมอ หรือน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นก็จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้สัตว์เลี้ยงได้ดีทีเดียว
5. เสริมอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความเย็น
ปัจจุบันมีอุปกรณ์เสริมความเย็นมากมายที่จะช่วยเพิ่มความเย็นให้กับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น เบาะนอนแบบเย็น ที่นอนเย็น หรือบางคนก็ประยุกต์ใช้จากอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ อย่างพวก โอ่งเซรามิก โอ่งมังกรเติมน้ำแข็ง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงสามารถไปนอนใกล้ๆ ลดอุณหภูมิของร่างกายให้เย็นลงได้
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
www.hospetal.co.th
www.talingchanpet.net