บทความ

อยากเปลี่ยนสีห้องใหม่ ลองใช้วิธี “แต่งห้องตามจิตวิทยาสี” สุขภาวะดี เสริมฮวงจุ้ย

แต่งห้องตามจิตวิทยาส-สุขภาวะดี-เสริมฮวงจุ้ย

ชอบสีอะไร? คำถามที่ใครหลายคนน่าจะเคยได้ยินบ่อยๆ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าสีแต่ละสีนั้นส่งผลได้ด้านความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป จึงมีการนำจิตวิทยาสีมาประยุกต์ใช้หลากหลาย ทั้งด้านศิลปะ การบำบัด หรือการออกแบบ สำหรับใครที่กำลังหาไอเดียในการทาสีห้องใหม่ ลองใช้วิธี “แต่งห้องตามจิตวิทยาสี” เพราะนอกจากจะช่วยให้เกิดความสมดุล อยู่แล้วสบายใจ ยังเสริมฮวงจุ้ยอีกด้วย

อยากเปลี่ยนสีห้องใหม่ ลองดูว่าแต่ละสีส่งผลต่อความรู้สึกอย่างไร?

  • สีแดง ความตื่นเต้น ความโกรธ ความโรแมนติก ความหลงใหล ความแข็งแกร่งมีพลัง
  • สีส้ม ความอบอุ่นและความสุข พลัง แรงบันดาลใจ ความกระตือรือร้น
  • สีชมพู ความอ่อนโยน อบอุ่น ความเป็นเด็ก ความสดใส
  • สีม่วง สีที่ช่วยกระตุ้นจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ความลึกลับ ความหรู
  • สีฟ้า ความสะอาด สดใส สบาย ความสงบสุขและบรรเทาความตึงเครียด
  • สีเทา ดำ ความเท่ ดุดัน สงบ ทันสมัย ความนิ่งเงียบ หนักแน่นเข้มแข็ง
  • สีขาว ความสะอาดบริสุทธิ์ ความสมบูรณ์แบบ ความปลอดภัย ความสว่าง

แต่งห้องตามจิตวิทยาสี ลองเลือกใช้ทฤษฎีนี้

อยากเปลี่ยนสีห้องใหม่ ลองเลือกใช้ทฤษฎีนี้

  • ทฤษฎีการความกลมกลืน 

การใช้หลักการเลือกสีแบบกลมกลืน คือการเลือกโทนสีที่อยู่ในวงจรสีใกล้เคียงกัน การใช้โทนสีเดียวแต่ไล่ระดับโทนเข้มไปโทนสว่าง ไล่ระดับความสดกับความหม่น หรือเลือกใช้สีวรรณะเดียวกัน เช่น สีน้ำเงิน-ฟ้า-เทาอ่อนอมฟ้า(โทนเย็น),ส้ม-เหลืองอ่อน-น้ำตาลอมส้ม (โทนร้อน) ซึ่งหลักการใช้จิตวิทยาสีแบบกลมกลืนมีข้อดีคือทำให้ห้องดูเป็นมู้ดแอนด์โทนเดียวกัน 

  • ทฤษฎีการความขัดแย้ง

การใช้หลักการความขัดแย้งของคู่สี หรือความ contrast คือการใช้สีที่เป็นคู่ตรงข้ามกันเพื่อสร้างมิติหรือความโดดเด่น การเลือกใช้สีโทนร้อนคู่กับสีโทนเย็น ตัวอย่างเช่น สีฟ้ากับสีส้ม สีน้ำเงินกับสีแดง ซึ่งหลักการใช้จิตวิทยาสีแบบสร้างความขัดแย้ง จะทำให้ห้องดู

แต่งห้องตามจิตวิทยาสี เลือกสัดส่วนสียังไงดี

แต่งห้องตามจิตวิทยาสี เลือกสัดส่วนสียังไงดี

จัดสัดส่วนยังไงให้พอดี

  • แบ่งสัดส่วนแบบ 70-30 (สีหลัก-สีนำสายตา)

คือการทาสีห้องโดยการเลือกให้ 70% เป็นสีหลัก หรือก็คือการเลือกทาพื้นที่ส่วนมาก และอีก 30% ทาในส่วนที่ต้องการให้เป็นจุดเด่น หรือจุดนำสายตา เช่น ทาสีผนัง 3 ด้านเป็นสีหลัก และทาสีผนังด้านที่เป็นหัวเตียง ให้เป็นจุดนำสายตา

  • แบ่งสัดส่วนแบบ 60-40 (สีหลัก-สีนำสายตา)

คือการทาสีห้องโดยการเลือกให้ 60% เป็นสีหลัก หรือก็คือการเลือกทาพื้นที่ส่วนมาก และอีก 40% ทาในส่วนที่ต้องการให้เป็นจุดเด่น หรือจุดนำสายตา เช่น ทาสีผนัง 3 ด้านเป็นสีหลัก และทาสีผนังด้านที่เป็นหัวเตียง ให้เป็นจุดนำสายตา

เลือกสีให้เข้ากับห้องโดยใช้จิตวิทยาสี 

เลือกสีให้เข้ากับห้องโดยใช้จิตวิทยาสี 

  • ห้องนอน

ห้องนอนเป็นห้องที่เราใช้สำหรับพักผ่อน ดังนั้น สีที่แนะนำคือสีที่ช่วยเยียวยาจิตใจ เสริมเรื่องความผ่อนคลายหรือทำให้จิตใจสงบ เอื้อต่อการพักผ่อน ควรเลือกสีโทนอ่อนหรือสีวรรณะเย็นเป็นสีหลัก และเลือกสีโทนเข้มหรือสีโทนร้อน เป็นสีที่ช่วยเสริมจุดเด่น

สีที่เหมาะกับห้องนอน : สีฟ้า สีน้ำเงิน สีครีม สีน้ำตาลอ่อน สีเขียวเข้ม สีเขียวอ่อน

  • ห้องรับแขก

ห้องที่เป็นโซนพักผ่อนเหมือนกัน แต่จะเป็นการพักผ่อนที่เริ่มมีการทำกิจกรรมมากขึ้น สีห้องจึงเหมาะกับโทนที่สดใส ช่วยเสริมเรื่องพลังงาน การเริ่มต้นวันใหม่ แต่ก็ยังเป็นสีที่เสริมเรื่องการพักผ่อนหย่อนใจได้ดีด้วย

สีที่เหมาะกับห้องรับแขก : สีเขียวอ่อน สีส้มแอปริคอต สีครีม 

  • ห้องนอนเด็ก

เด็กๆ เป็นช่วงวัยที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาการทางด้านสมอง จิตใจ และจินตนาการ ดังนั้น สีห้องที่เหมาะกับห้องนอนเด็กจึงควรเป็นที่มีความสดใส อ่อนโยน ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ 

สีที่เหมาะกับห้องนอนเด็ก : สีชมพู สีม่วงอ่อน

ใส่ความเห็น