ตี 3 เวลาหลอน เวลาสุดฮิตที่ถ้าใครจะโดนผีอำก็จะต้องโดนเวลานี้ ความเชื่อเรื่องผีอำมีมาอย่างยาวนาน และไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะในประเทศไทย แต่หลายประเทศก็มีตำนานความเชื่อเกี่ยวกับผีอำเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าผีมีจริงหรือไม่ แต่อาการ “ผีอำ” มีชื่อที่ถูกอธิบายได้ในทางวิทยาศาสตร์ว่า Sleep Paralysis หรือภาวะที่ร่างกายรู้สึกตัว แต่ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ได้
ตำนานความเชื่อเรื่องผีอำในแต่ละวัฒนธรรม
ก่อนจะไปเข้าเรื่องสาเหตุของอาการผีอำ เราขอพาไปแวะดูตำนานความเชื่อเรื่องผีอำในแต่ละวัฒนธรรมว่ามีอะไรบ้างประเทศไม่ใกล้จากเรามากอย่างญี่ปุ่น ภูมิภาคโทโฮะกุของญี่ปุ่น มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เมื่อนอนหลับไปแล้วถูกผีกดทับหรือจับที่ปลายขา หรือประเทศแคนาดา มีเรื่องเล่าว่า คนที่ถูกผีอำเป็นเพราะมีแม่มดมากดทับลำตัว
อาการผีอำ คืออะไร?
อาการผีอำ หรือภาวะ Sleep Paralysis เป็นภาวะที่ร่างกายรู้สึกตัวแต่ขยับร่างกายไม่ได้ อยู่ในสภาวะแข็งทื่อเหมือนถูกกดทับตัวเอาไว้ ตากระตุก หายใจติดขัด หรือมีฝันร้ายร่วมด้วย มักจะเกิดขึ้นตอนอยู่ในช่วงกึ่งหลับกึ่งตื่น เลยเหมือนกับเรากำลังลืมตามองเห็นเหตุการณ์โดยรอบแต่ไม่สามารถขยับหรือโต้ตอบอะไรได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะหายเองภายในไม่กี่นาทีจากการสะดุ้งตื่น หรือมีคนปลุก ภาวะ Sleep Paralysis หรือผีอำ เกิดได้กับคนทั่วไป โดยพบว่ามีคนจำนวน 4 จาก 10 คนที่ตกอยู่ในภาวะผีอำสักครั้งในชีวิต แต่อาการผีอำก็เป็นการบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับการนอนได้เช่นเดียวกัน
จริงๆ แล้วอาการผีอำเกิดอะไร?
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนอนน้อยติดต่อกัน
- นอนไม่เป็นเวลา เปลี่ยนเวลานอนบ่อยๆ หรือประสบภาวะ Jet Lag
- ปัญหาเกี่ยวกับสภาพจิตใจ เช่น ความกังวล ความเครียดสะสม
- นอนหลับผิดท่า และมักพบบ่อยๆ ในท่านอนหงาย
- ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับนอนหลับ เช่น โรคลมหลับ
- ใช้ยารักษาโรคบางอย่าง เช่น ยาที่ใช้รักษาโรคสมาธิสั้น
- มีการใช้สารเสพติด
อาการผีอำ ป้องกันและรักษาอย่างไร?
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
- พยายามเข้านอนและตื่นเป็นเวลา เพื่อให้ร่างกายจดจำเวลานอน ลดการเกิดภาวะผีอำเพราะนอนผิดเวลา
- หากเป็นเรื้อรังควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป